วัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ วิธีลดอาการแพ้ และป้องกันหอบหืดในอนาคต
< โรคภูมิแพ้ คืออะไร
< วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ มีวิธีใดบ้าง
< วัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ คืออะไร
< ข้อดีของวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ คืออะไรบ้าง
< วิธีการฉีดวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ ทำอย่างไร
โรคภูมิแพ้คืออะไร?
โรคภูมิแพ้ คือ การที่ร่างกายมีการตอบสนองผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น
-
ไรฝุ่น
-
แมลงสาบ
-
สุนัข
-
แมว
-
หญ้า
-
เชื้อรา
อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่:
- คันจมูก คันจมูก จาม น้ำมูกไหล นอนกรน
- ไอตอนกลางคืน ออกกำลังกายแล้วไอ หัวเราะเยอะๆ แล้วไอ หอบ
- คันตา ตาแดง เปลือกตาบวม
- ผิวแห้ง ผื่นแดง คัน
วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ มีวิธีใดบ้าง
การรักษามีหลายวิธี เริ่มต้นจาก
การจัดการสิ่งแวดล้อม:
ลดสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ทำความสะอาดห้องนอน ชุดเครื่องนอน ใช้ปลอกหมอนกันไรฝุ่น และใช้เครื่องฟอกอากาศ
การใช้ยา:
- ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน
- ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก
การรักษาที่ปลายเหตุ ปัจจุบันมีการพัฒนาการรักษาขึ้นมาใหม่ โดยไปแก้ที่ต้นเหตุเลย
การฉีดวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้:
วิธีนี้ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อสารก่อภูมิแพ้
วัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ คืออะไร
การฉีดสารสกัดที่ทำให้เกิดอาการแพ้แก่ผู้ป่วย เช่น ไรฝุ่น หรือ แมลงสาบ เพื่อที่จะทำให้ร่างกายที่เคยมีปฏิกริยาแพ้ สามารถสร้างภูมิต้านทานให้ไม่แพ้
ข้อดีของวัคซีนรักษาภูมิแพ้ คืออะไรบ้าง
- โรคภูมิแพ้อาการลดลงอย่างชัดเจน จนสามารถลดการใช้ยา หรือหยุดยาได้ตลอดชีวิต
- สามารถรักษาโรคหอบหืดได้ ลดความรุนแรงของโรค และอาการหอบหืดกำเริบได้
- ลดโอกาสการเกิดการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดใหม่ในอนาคต
- สามารถป้องกันการเกิดโรคหอบหืดในอนาคตได้
การฉีดวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้
- โรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
- โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้
- โรคหืดจากภูมิแพ้
- โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้
วัคซีนภูมิแพ้สามารถฉีดรักษาคนแพ้อะไรได้บ้าง
เริ่มจากมาทำทดสอบสารก่อภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือการตรวจเลือด วัคซีนภูมิแพ้จะสามารถฉีดในผู้ป่วยที่ตรวจพบว่ามีการแพ้ไรฝุ่น แมลงสาบ สุนัข แมว หรือหญ้า
วิธีการฉีดวัคซีนรักษาภูมิแพ้ทำอย่างไร
การฉีดเข้าที่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน มีทั้งหมด 4 ขวด แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ
- ช่วงแรก (ขวด 1-4):
- ฉีดทุกสัปดาห์ ทั้งหมด 16-24 เข็ม นัดมาฉีดทุก 1-2 สัปดาห์
- เริ่มจากความเข้มข้นน้อยไปหามาก
- ช่วงที่สอง:
- ฉีดเดือนละ 1 เข็ม
- ต่อเนื่อง 3-5 ปี
กระบวนการฉีด:
- เริ่มฉีดจากความเข้มข้นน้อย
- ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณจนร่างกายทนต่อสารก่อภูมิแพ้
ผลข้างเคียงของการรักษา มีอะไรบ้าง
เนื่องจากเราฉีดสารก่อภูมิแพ้แก่ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้สารนั้นอยู่แล้ว จึงทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนอง ที่พบได้บ่อย ดังนี้:
- บวมแดงบริเวณที่ฉีดยา
- ผื่นลมพิษ
- การแพ้รุนแรง: เช่น หอบเหนื่อย อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ หรือหมดสติ
ข้อควรปฏิบัติ:
หลังฉีดควรพักในโรงพยาบาล 60 นาที โดยหากเกิดอาการผิดปกติทางทีมแพทย์ได้มียาแก้แพ้ และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
การประเมินผลการรักษา
- ผลตอบสนองดี: 70-90% ผู้รับบริการมีอาการลดลงอย่างชัดเจน
- การเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นผลใน 3-6 เดือน
- ไม่มีผลตอบสนองใน 1 ปี: อาจพิจารณาหยุดฉีดวัคซีน
- ผู้ที่ฉีดครบ 3-5 ปี ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น แต่บางรายอาจกลับมาเป็นใหม่
ผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร
เริ่มต้นจากจัดสิ่งแวดล้อมในบ้านและใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ วันที่มาฉีดต้องกินยาแก้แพ้ก่อนฉีด 1 ชั่วโมง หลังจากฉีดอยู่ภายในแผนกเด็กอย่างน้อย 60 นาที
เพื่อสังเกตอาการแพ้อย่างใกล้ชิด และห้ามออกกำลังกายหลังฉีด 12 ชั่วโมง และถ้ามีไข้ หรือไม่สบายจะไม่สามารถฉีดยาได้ ให้ติดต่อแผนกเพื่อเลื่อนนัด ที่สำคัญต้องมาพบแพทย์สม่ำเสมอ
ติดต่อเราเพื่อการรักษา
หากสนใจการฉีดวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ สามารถติดต่อแผนกกุมารแพทย์ ชั้น 2
คลิก เพื่อขอคำปรึกษา