กักตัวร่วมกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไร หากไม่มีห้องพักแยก
การกักตัวแยกที่บ้าน (HI) ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งวิธีการหลักในการรักษา สำหรับผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 กลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย หรือไม่แสดงอาการ สุขภาพร่างกายแข็งแรง อาจมีโรคร่วมที่รักษา และสามารถควบคุมได้ตามดุลยพินิจของแพทย์ มีอายุน้อยกว่า 75 ปี และยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง
แม้ว่าในบางกรณี ผู้ป่วยจะมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่สามารถทำการกักตัวแยกที่บ้านได้ แต่หากมีผู้พักอาศัยร่วมในที่พัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่พักที่ไม่มีห้องพักแยก แนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการส่งต่อ-รับเชื้อ ระหว่างผู้ร่วมพักอาศัย จึงเป็นสิ่งจำเป็น
โดย นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา รองผู้อำนวยการด้านวิชาการและการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี ได้ให้คำแนะนำ สำหรับแนวทางการปฏิบัติ กรณีที่ผู้ป่วยไม่มีห้องพักแยกกักตัวในบ้าน แต่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว ให้ปฏิบัติดังนี้:
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และยึดแนวทางการป้องกันตนเองตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
- แบ่งเขตพื้นที่ส่วนของผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 และส่วนผู้ที่ไม่ติดเชื้อ แยกออกจากกันอย่างชัดเจน
- วางพัดลมไว้ในห้องและเปิดตลอดเวลา เพื่อกำหนดทิศทางลมให้ไปออกที่หน้าต่างฝั่งที่ใกล้กับส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วยให้บริเวณของผู้ที่ไม่ติดเชื้ออยู่เหนือลม (มีพื้นที่กำหนดพิเศษที่จะให้ผู้ป่วยโควิด-19 สามารถผ่านเข้ามาได้ เฉพาะกรณีวางของหรือออกจากห้องเท่านั้น)
- กำหนดพื้นที่พิเศษสำหรับการจัดการกับสิ่งของหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ใช้แล้ว (ผู้ป่วยโควิด-19 จะต้องนำของใส่ในถุง พ่นด้วยแอลกอฮอล์ข้างในก่อนปิดปากถุง เมื่อวางแล้วให้พ่นแอลกอฮอล์ซ้ำที่ตรงปากถุงด้านนอก ส่วนผู้ที่จะนำไปจัดการต่อจะต้องใส่ถุงมือ โดยพ่นแอลกอฮอล์ที่ด้านนอกถุงอีกครั้ง เมื่อนำถุงออกมาจากพื้นที่แล้ว ให้เปิดปากถุงแล้วแช่ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักฟอกประมาณ 10-15 นาที ก่อนที่จะนำไปทำความสะอาดตามปกติ)
- เมื่อมีการสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน ขอให้มีการปฏิบัติตัวป้องกันตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยยึดหลัก “ไม่แพร่เชื้อ-ไม่ติดเชื้อ”
อย่างไรก็ตาม แนวทางปฏิบัติทั้ง 5 ข้อ สามารถช่วยได้เพียงลดความเสี่ยงต่อการส่งต่อ-รับเชื้อ หากผู้พักอาศัยร่วม หรือผู้ดูแลมีอาการผิดปกติ ที่เป็นสัญญาณของการได้รับเชื้อโควิด-19 ควรรีบตรวจหาเชื้อทันที
อ้างอิง : กรมการแพทย์ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 เม.ย. 65)