โรคไตวายเรื้อรัง อันตรายอย่างไร ?

ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure : CRF)
คือ ภาวะที่การทำงานของไตค่อย ๆ เสื่อมลงต่อเนื่อง เป็นเวลาตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป โดยแบ่งความรุนแรงออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งส่วนใหญ่ภาวะไตวายเรื้อรัง จะเกิดจากการแทรกซ้อนของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ที่ขาดการรักษาอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคไตวายเรื้อรัง ได้แก่ กรวยไตอักเสบเรื้อรัง นิ่วในไต โรคถุงน้ำดีในไตชนิดหลายถุง หรืออาจเกิดจากการใช้ยาบางชนิดติดต่อกันทุกวันเป็นเวลานาน เช่น ยาแก้ปวด เป็นต้น
อาการแสดงเมื่อเป็นโรคไต
1.บวม
2.ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ขุ่น เป็นฟอง เป็นเลือด สีชา แสบขัด เป็นต้น
3.ความดันโลหิตสูง
4.ซีด อ่อนเพลีย
5.อาการของเสียค้างในร่างกาย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ตะคริว ซึม สับสน เป็นต้น
การตรวจโดยทั่วไปมักจะใช้ค่าการตรวจของสาร Creatinin ในเลือด เพื่อดูระดับการทำงานของไต ถ้ามีค่าสูงจะแสดงถึง การทำงานของไตลดลง มีของเสียคั่งในร่างกาย
การรักษาโรคไต
ผู้ป่วยที่มีอาการสูญเสียภาวะการทำงานของไต จนเกิดอาการของเสียคั่งในร่างกาย ซึ่งตัวไม่ได้รับการรักษา ก็จะทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานผิดปกติหรือเสียชีวิตได้
แบ่งออกได้ 3 ชนิด
1.การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ( Hemodialysis ) เป็นกระบวนการนำเลือดของ ผู้ป่วยออกจากร่างกายมาทำให้สะอาดขึ้น โดยการใช้เครื่องไตเทียมเป็นการกำจัดของเสีย ปรับระดับเกลือแร่ในเลือด และปรับสมดุลของน้ำในร่างกายของผู้ป่วยไตวายให้เป็นปกติ ซึ่งต้องทำในโรงพยาบาลหรือคลีนิคฟอกไต
โดยแพทย์ต้องผ่าตัดทำเส้นเลือด สำหรับนำเลือดออกจากร่างกายและต้องทำการฟอก โดยขณะทำต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญฟอกไต
2.การล้างไตทางช่องท้อง ( Chonic Ambolatory Peritoneal Dialysis : CAPD ) เป็นวิธีที่ผู้ป่วยสามารถทำเองที่บ้านหรือที่ทำงานได้ทุกวัน โดยการใช้น้ำยาเฉพาะเพื่อกรอง ของเสียและสารพิษเข้าไปร่างกาย ผ่านทางช่องท้องผู้ป่วย เป็นการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย โดยการใช้เยื่อบุพนังช่องท้องของร่างกายตามธรรมชาติเป็นตัวกรอง โดยใช้น้ำยาสำหรับล้างทางช่องท้องประมาณ 2 ลิตร ใส่ผ่านสายทางหน้าท้องที่หมอวางไว้ก่อน ค้างน้ำยาไว้ในช่องท้อง 4-6 ชั่วโมง แล้วปล่อยน้ำยาที่ดูดซึมของเสียและน้ำส่วนเกินออกมาทางช่องท้อง ทำเช่นนี้ วันละ 4 รอบ ซึ่งรอบการเปลี่ยนน้ำยาอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้ สำหรับวิธีนี้ผู้ป่วยทำเองได้ แต่ต้องรักษาความสะอาดมาก เพื่อลดโอกาสติดเชื้อในร่างกาย
3.การปลูกถ่ายไต ( Kidney Transplantation ) หรือการเปลี่ยนไต เป็นการผ่าตัดเพื่อนำไตจากผู้บริจาคที่เป็นญาติหรือผู้เสียชีวิตมาใส่ให้ใหม่ ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย วิธีการผ่าจะใช้ไตเพียงข้างเดียว ใส่เข้าไปในช่องท้องน้อยด้านใดด้านหนึ่ง และต่อท่อไตเข้ากับระบบทางเดินปัสสาวะเดิมของผู้ป่วย ให้ทำงานได้เหมือนภาวะปกติ หลังจากปลูกถ่ายไต ผู้ป่วยต้องรับประทานยากดภูมิกินยาตลอดชีวิต การรักษาวีธีนี้ถือว่าเป็นวิธีทีทำให้คุณภาพชีวิตใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis)
ในปัจจุบันเป็นการรักษาโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมมี 2 แบบ)
1.การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบมาตรฐานทั่วไป ใช้หลักการแลกเปลี่ยนสารผ่านตัวกรองด้วยวิธีการแพร่ ( Diffusion ) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดของเสียโมเลกุลขนาดเล็กได้ดี แต่กำจัดของเสียโมเลกุลขนาดกลางได้ไม่มาก
2.การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเรียกว่า “การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมชนิดออนไลน์” เป็นการผสมผสานวิธีการกำจัดของเสียจากเลือดทั้งชนิดการแพร่ ( Diffusion ) กับการพา ( Convection ) เข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถขจัดของเสียที่มีโมเลกุลขนาดกลางและใหญ่ได้ดีกว่าการฟอกเลือดแบบทั่วไป ซึ่งการฟอกเลือดโดยเครื่องไตเทียมแบบออนไลน์ ( OL-HDF ) มีประโยชน์กับผู้ป่วยมาก คือ
1. สามารถขจัดฟอสเฟตได้มากกว่า สุขภาพกระดูกดีขึ้น
2. ลดการอักเสบของร่างกายและลดอาการคันที่ผิวหนัง ผิวขาวขึ้นไม่ดำคล้ำ
3. ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้คงที่ ลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ
4. ภาวะโลหิตจางลดลง ไม่อ่อนเพลีย นอนหลับได้ดี ลดยาฉีดกระตุ้น สร้างเม็ดเลือดเองได้
5. ช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
6. ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย เมื่อเทียบกับการฟอกเลือดแบบธรรมดาทั่วไป
การป้องกันโรคไต
1.การรับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง รวมถึงการตรวจปัสสาวะและตรวจเลือด
2.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเค็ม อาหารทอด อาหารมัน อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แหนม ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ เป็นต้น
3.หลีกเลี่ยงการใช้ยาและสารพิษต่างๆติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น ยาลดอาการปวด ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวดข้อปวดกระดูก ยาชุด ยาหม้อ เป็นต้น
4.หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนานๆ หรือการสวนปัสสาวะ เพราะจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะและเกิดการอักเสบได้
5.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
ปฏิบัติตัวอย่างไร…เมื่อรู้ว่าเป็นโรคไตเรื้อรัง
สาเหตุของโรคไตเรื้อรัง เกิดจากหลายสาเหตุและสามารถป้องกันได้ ถ้าได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ เช่น การควบคุมเบาหวาน และความดันโลหิตสูงให้ดี แต่เป็นที่น่าเสียใจว่า ผู้ป่วยโรคไตบางคนละเลยการรักษา จนทำให้ไตวายอย่างรวดเร็วและทำให้เสียชีวิต ดังนั้นผู้ป่วยที่รู้ว่าเป็นโรคไตเรื้อรัง จากสาเหตุใด ๆ ก็ตามควรปฏิบัติตัวดังนี้
1.พบแพทย์สม่ำเสมอ
2.ควบคุมความดัน น้อยกว่า 130/80 และระดับน้ำตาลสะสมน้อยกว่า 7 %
3.ควบคุมอาหารรสเค็ม
4.หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด ยาหม้อ และยาชุดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
5.เลิกสูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
6.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
บทความโดย : แผนกไตเทียม โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
หากคุณต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา
สามารถติดต่อสอบถามเราได้
Call Center 02-080-5999 หรือ LINE : @psuv
หรือ คลิกที่นี่เพื่อ Add Line ของเรา
ศูนย์การแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
แผนกไตเทียม
สถานที่
อาคาร B ชั้น 2
เวลาทำการ
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.00-11.00 / 11.00-16.00 / 16.00-21.00
เบอร์ติดต่อ
02 080 5999 ต่อ 1702