วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิด 4 สายพันธุ์
ไข้หวัดใหญ่มีอาการอย่างไร ?
- มีไข้
- ปวดเมื่อยตามตัว
- อ่อนเพลีย
- ไอ
- มีน้ำมูก,คัดจมูก
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ มีประโยชน์อย่างไร
- ลดโอกาสป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ และภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้มากกว่าวัคซีนชนิดอื่น
- ข้อมูลจากทั่วโลกพบการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ถึง 4 สายพันธุ์ ดังนั้นการใช้วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ สามารถป้องกันเชื้อได้มากกว่าวัคซีนชนิดเดิม
- ครอบคลุมเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งสายพันธุ์ B มีการระบาดมากถึง 13 – 55 % (ข้อมูลในประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมา)
- มีความปลอดภัยสูงสามารถใช้ในเด็กเล็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุ
เหตุใดต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี ?
- กระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ ให้สูงพอในการป้องกัน
- เชื้อไวรัสที่ระบาดในแต่ละปี เป็นเชื้อที่ต่างชนิดกัน ดังนั้น จึงต้องฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธ์ที่จะระบาดในปีนั้น ๆ
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และควรได้รับการป้องกันด้วยวัคซีน
- เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี
- ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
- หญิงตั้งครรภ์ และ ผู้หญิงที่อยู่ในระยะ 2 สัปดาห์หลังคลอด
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน หัวใจ ปอด ความผิดของตับไต
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ อาจมีไข้ ปวดเมื่อนตามตัวได้หลังฉีด อาการดังกล่าวหายได้เองภายใน 1-2 วัน
การดูแลอาการข้างเคียง
- ประคบบริเวณที่ปวดหรือบวมด้วยผ้าเย็น
- รับประทานยาลดไข้ หากมีไข้
การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ทำให้...
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่นโรคหลอดลม และปอดอักเสบ
- อาจทำให้คนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานโรคปอด โรคไต โรคตับ และโรคเรื้อรัง อาการต่าง ๆ ของโรคประจำตัวเหล่านี้อาจกำเริบได้
ไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันได้อย่างไร
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
- สร้างสุขอนามัย
- ฉีดวัคซีนป้องกัน
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ คืออะไร
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนชนิดฉีด ผลิตจากเชื้อที่ตายแล้ว โดยผ่านกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ แต่อาการจะน้อยลงโดยภูมิคุ้มกันจะสร้างขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีน
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ต่างจากชนิด 3 สายพันธุ์อย่างไร
วัคซีนชนิดเดิมมีเพียง 3 สายพันธุ์คือ A 2 สายพันธุ์ และ B 1 สายพันธุ์ แต่จากข้อมูลการระบาดจากทั่วโลกพบว่า
- เชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ B มีการระบาดร่วมกันทุกปีทั้ง 2 สายพันธุ์ คือสายพันธ์ุ Victoria และ Yamagata
- สัดส่วนการระบาดของทั้ง 2 สายพันธุ์ไม่แน่นอน จึงเป็นการยากที่องค์การอนามัยโลกจะเลือกสายพันธุ์ B ตระกูลใดมาบรรจุในวัคซีนได้อย่างแม่นยำ
***องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำให้บรรจุสายพันธุ์ B ทั้ง 2 สายพันธุ์ในวัคซีนเป็น “วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์” เริ่มตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
ที่มา : องค์การอนามัยโลก