นอนมากเกินไปส่งผลเสียอย่างไร? รู้จักผลกระทบของการนอนมากเกิน
คนที่ขี้เซา ที่หัวถึงหมอนแล้วหลับได้ทันที อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไป นี่อาจไม่ใช่ความโชคดีอย่างที่คิด ก็ได้นะ ! แน่นอนว่าการนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเปรียบเสมือนเป็นวิตามินบำรุงร่างกาย สมอง และจิตใจ แต่รู้หรือไม่ว่า ? …ระยะเวลาในการนอนที่มากเกินไปสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ หากพบว่าตัวเองเป็นคนขี้เซาที่ใช้เวลานอนเยอะมาก รวมถึงหลังจากตื่นนอนแล้วก็ยังง่วงอยู่ อยากจะนอนต่อ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรคนอนเกิน” (Hypersomnia) ได้ ว่าแล้วก็มาทำความรู้จักกับโรคนอนเกินพร้อมเคล็ดการนอนอย่างสุขภาพดีกันได้เลย
โรคนอนเกิน คืออะไร ?
โรคนอนเกิน (Hypersomnia) เป็นโรคที่หลับเกินพอดี ขี้เซา นอนเท่าไรก็ไม่พอ ง่วงนอนตลอดเวลา งีบหลับระหว่างวันหลายครั้ง แม้แต่ในเวลากินข้าว หรือพูดคุยกับคนอื่นก็ยังหลับได้ มีการนอนที่นานเกิน 8 ชั่วโมง โรคนี้ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรม นิสัยเกียจคร้าน หรือบุคลิกภาพส่วนตัว แต่เกิดจากโรคทางกาย หรือทางใจ ต้องรีบพบแพทย์
สัญญาณอันตราย “โรคนอนเกิน”
- ตื่นนอนยาก ขี้เซามาก
- นอนเท่าไรก็ไม่พอ เพราะยังรู้สึกง่วง เพลีย อยู่ตลอดเวลา
- อยากจะงีบนอนวันละหลาย ๆ ครั้ง
- หากมีอาการหนักมาก อาจงีบหลับได้ในสถานการณ์ที่ไม่ควรหลับ เช่น ทานข้าว อยู่ในวงสนทนาที่เสียงดัง ระหว่างทำงาน
- หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายกับเรื่องเล็กน้อย
- ความจำไม่ค่อยดี สมองไม่ค่อยแล่น คิดอะไรไม่ค่อยออก หรือคิดช้าทำช้า
- วิตกกังวล หรือมีอาการซึมเศร้า
ต้นเหตุที่ทำให้ “นอนไม่พอ” ซะที
- อดนอนมาเป็นเวลานาน และบ่อย ๆ จนร่างกายพักผ่อนไม่พอ ทำให้นอนเท่าไรก็ไม่รู้จักพอสักที
- นาฬิกาชีวภาพในร่างกายแปรปรวน ปรับเวลาผิด เช่น เดินทางข้ามประเทศที่ต่างช่วงเวลากันมาก
- ฮอร์โมนในร่างกาย หรือสารเคมีในสมองไม่ปกติ ทำให้ร่างกานนอนมากผิดปกติ
- นอนกรน มีภาวะการหยุดหายใจในช่วงหลับ ทำให้ร่างกายรับออกซิเจนไม่พอ
- เนื้องอกในสมอง และโรคอื่น ๆ ที่ทำให้อยากนอนตลอดเวลา
ผลเสียจากการนอนมากเกินไป
‘สมองทำงานช้า’ พอสมองทำงานช้า ความคิดความอ่านก็จะช้า รู้สึกเฉื่อยชา กลายเป็นคนไร้เรี่ยวแรง ไม่มีชีวิตชีวา ไม่อยากขยับร่างกาย ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อไม่ค่อยถูกใช้งาน ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกได้
‘อ้วนง่าย’ การนอนจะทำให้ระบบอาหารไม่ย่อย แม้จะกินน้อยแต่ระบบเผาผลาญไม่ทำงาน ร่างกายเริ่มสะสมไขมัน ซึ่งก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ ความดัน และเบาหวาน
‘มีบุตรยาก’ ผลจากการศึกษาผู้หญิงเกาหลีใต้ ในปี 2013 พบว่าผู้ที่นอนนานเกินวันละ 9 ชั่วโมงต่อวัน จะเกิด ‘ภาวะมีบุตรยาก’ กว่าคนที่นอน 7-8 ชั่วโมง ถึง 650 คน เพราะฮอร์โมนและรอบเดือนของผู้หญิงจะเป็นปกติก็ต่อเมื่อได้รับการพักผ่อนอย่างพอดี
‘ตายเร็ว’ คนที่หลับง่ายและนอนนาน ๆ จะไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ส่งผลให้ออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่นอนอย่างพอดีถึง 1.3%
‘โรคซึมเศร้า’ ในปี 2012 ได้มีการศึกษาผู้หญิงสูงวัยที่นอนมากกว่า 9 ชั่วโมง นั้นจะมีอารมณ์แปรปรวน สมองทำงานแย่ลงเพราะสารแห่งความสุขจะผลิตน้อยลง ซึ่งเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนที่นอนปกติถึง 49%
5 วิธีจัดการอาการหิวนอนตลอดเวลา
- ตั้งเวลาเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เพราะปกติร่างกายของคนเราจะนอนหลับเป็นรอบ ถ้าเริ่มตั้งแต่เคลิ้ม ๆ สะลึมสะลือจนถึงขั้นหลับลึก จะกินเวลารอบละ 90 นาที คืนละ 5-6 รอบ ยิ่งนอนหัวค่ำก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะนอนได้หลับลึกมากยิ่งขึ้น
- กำหนดตารางเข้านอน และตื่นนอนเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน ติดต่อกัน 28 วัน ร่างกายจะสร้างระบบนาฬิกาชีวิตของตัวเราเองขึ้นมาใหม่ จะตื่นได้เองอย่างสดชื่นโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก
- จัดห้องนอนให้โปร่ง อากาศระบายได้ดี ร่างกายที่ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจะทำให้สมอง เซื่องซึม และง่วงนอนตลอดเวลา
- ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ สร้างออกซิเจนในเลือดให้มากขึ้น และยังทำให้ร่างกายแอคทีฟด้วย
- งดอาหารจังค์ฟู้ด น้ำอัดลม แป้งขัดขาว เบเกอรี่ ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดไม่ปกติ ร่างกายคุมไม่ได้ ทำให้ง่วง เนือย ตอนที่ระดับน้ำตาลตก
การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้ามากเกินไปนั้นก็ย่อมมีผลเสียร้ายแรงที่ตามมามากกว่าผลดีแน่นอน โรคนอนเกินคือคนที่ใช้เวลานอนนานเกิน 8 ชั่วโมง แล้วยังรู้สึกอยากนอนต่อ โรคนี้ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรม นิสัยเกียจคร้าน หรือบุคลิกภาพส่วนตัว แต่เกิดจากโรคทางกาย หรือทางใจ ต้องรีบพบแพทย์ ฉะนั้นไม่ควรเพิกเฉยต่อการนอนที่ผิดปกติของตัวเอง เริ่มปรับพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ เพื่อตื่นมารับเช้าวันใหม่ด้วยความสดใส เป็นตัวเองที่มั่นใจ เฮลทตี้ได้ทุกวันกันนะคะ
ที่มา : กรมสุขภาพจิต