ความหมายของค่าความดันโลหิต
เชื่อว่าเกือบทุกคน คงเคยผ่านการวัดความดันโลหิตมาบ้างใช่มั้ยล่ะคะ ไม่ว่าจะไปโรงพยาบาล คลินิก หรือซื้อเครื่องวัดความดันมาตรวจวัดเองที่บ้าน แล้วเคยสงสัยไหมคะว่า ค่าความดันคืออะไร วัดไปทำไม แล้วความดันโลหิตต่ำ-สูงอันตรายแค่ไหน เรามาหาคำตอบกันได้เลยค่ะ
ค่าความดันโลหิตบ่งบอกถึงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของคุณ การรู้วิธีอ่านค่าความดันซีสโตลิกและไดแอสโตลิกจะช่วยให้คุณรักษาสุขภาพได้ดีขึ้น
ค่าความดันโลหิต คืออะไร?
ความดันโลหิต คือ ค่าความดันของกระแสเลือดในหลอดเลือดแดง ซึ่งเกิดจากการสูบฉีดเลือดของหัวใจ โดยที่เมื่อหัวใจบีบตัว เราจะได้ค่าความดันตัวบน และเมื่อหัวใจคลายตัว เราจะได้ค่าความดันตัวล่าง โดยที่ค่าความดันปกติ เฉลี่ยโดยทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งค่าความดันเหล่านี้วัดได้โดยการใช้เครื่องวัดความดัน
ค่าความดันโลหิตแบ่งออกเป็น 2 ค่า คือ
- ค่าความดันโลหิตตัวบน (Systolic Blood Pressure) คือค่าความดันโลหิตในหลอดเลือดที่เกิดขึ้นขณะที่หัวใจบีบตัว
- ค่าความดันโลหิตตัวล่าง (Diastolic Blood Pressure) คือค่าความดันของเลือดที่ขณะที่หัวใจคลายตัว
โดยในประเทศไทยกำหนดค่าความดันโลหิตปกติคือค่าความดันโลหิตตัวบนไม่เกิน 140 และตัวล่างไม่เกิน 90 มิลลิเมตรปรอท โดยค่าความดันโลหิตสูงแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
- ระดับที่ 1 ตัวบนเกิน 140 มิลลิเมตรปรอทหรือตัวล่างเกิน 90 มิลลิเมตรปรอท
- ระดับที่ 2 ตัวบนเกิน 160 มิลลิเมตรปรอทหรือตัวล่างเกิน 100 มิลลิเมตรปรอท
- ระดับที่ 3 ตัวบนเกิน 180 มิลลิเมตรปรอทหรือตัวล่างเกิน 110 มิลลิเมตรปรอท
ทั้งนี้ การวัดค่าความดันโลหิตเพียงครั้งเดียวยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง จำเป็นต้องวัดซ้ำ 2 – 3 ครั้ง และตรวจติดตามเป็นระยะเพราะค่าความดันโลหิตเป็นตัวเลขที่มีปัจจัยหลายอย่างมากระทบได้ง่าย เช่น ความเหนื่อย ความเครียดหรือกังวล เป็นต้น
การเตรียมตัวเพื่อวัดความดันโลหิต
- ก่อนวัดความดันโลหิต 30 นาที ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ กาแฟ ไม่ผ่านการออกกำลังกาย และไม่มีภาวะทางอารมณ์ เช่น โมโห โกรธ เครียด เป็นต้น
- พักก่อนทำการตรวจวัดความดันเป็นเวลา 5-15 นาที
- ควรปัสสาวะก่อนทำการวัดความดัน
- ไม่ควรพูดคุยมากเกินไปในขณะที่ทำการวัดความดัน
ความดันโลหิตต่ำ
เป็นภาวะที่ความดันเลือดซิสโตลิกต่ำกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ทั้งหญิงชาย ไม่ว่าอายุเท่าใดก็สามารถเป็นได้ ส่วนมากจะมีสาเหตุมาจากการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน วิตามินซี หรือ เลือดผิดปกติ เช่นภาวะโลหิตจาง โดยภาวะเหล่านี้จะมีทั้งที่สามารถหายเองได้กับต้องได้รับการรักษา
อาการของความดันโลหิตต่ำ
ปกติแล้วความดันโลหิตต่ำจะไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ แต่หากอยู่ในภาวะที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ผู้ป่วยจะมีอาการเกิดขึ้นชั่วคราว ดังนี้
- เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมกะทันหัน
- ใจเต้นแรง ใจสั่น
- ตาพร่า
- เบลอคลื่นไส้
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- กระหายน้ำ
นอกจากนี้ยังมีอาการหน้ามืดเมื่อมีการเปลี่ยนท่านั่ง หรือท่ายืนกะทันหัน ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถป้องกันได้ เช่น หลีกเลี่ยงการนอนนาน ๆ การลุก หรือนั่งอย่างรวดเร็ว อาบน้ำอุ่นจัด เป็นต้น
การดูแลร่างกายเมื่อความดันโลหิตต่ำ
- หากมีอาการควรนั่งพัก หรือนอนลงทันทีโดยพยายามยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง
- หลีกเลี่ยงการยืน หรือนั่งนาน ๆ
- หลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในเวลากลางคืน และพยายามลดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เคลื่อนไหว หรือออกกำลังกายในช่วงเช้าเพื่อกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจให้เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นการไขว้ขา หรือบิดตัว เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก เพราะการนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ความดันโลหิตต่ำลง
ความดันโลหิตสูงคืออะไร
โดยปกติแล้วหากวัดค่าความดันโลหิตคนปกติจะมีค่าอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งประกอบด้วยค่าความดันจากการบีบตัวและคลายตัวของหัวใจ (ความดันช่วงบนและช่วงล่าง) แต่หากวัดแล้วได้ค่าตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปถือว่ามีโอกาสเป็นความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องคัดกรองทันทีอีก 1-2 ครั้ง เพื่อยืนยัน ปัจจัยที่ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง อารมณ์ตื่นเต้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือมี คาเฟอีน เป็นต้น อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงคือ
- อาการเวียนศีรษะ
- ตึงต้นคอ
- ใจสั่น
- อ่อนเพลีย
- ตาพร่ามัว
- อาจมีเลือดกำเดาไหลร่วมด้วย
สาเหตุของการเกิดความดันโลหิตสูง
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงตรวจไม่พบสาเหตุ อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยบางรายอาจมีโรคบางอย่างซ่อนอยู่ เช่น โรคไต เนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไต หรือเกิดจากพฤติกรรมหรือสาเหตุเสี่ยง ได้แก่
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ไม่ออกกำลังกาย
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ดังนั้น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจึงควรมาพบแพทย์ เพื่อตรวจประเมิน และรักษาต่อไป
เป็นความดันโลหิตสูงแล้วต้องทำอย่างไร
- บริโภคอาหารที่มีประโยชน์และมีผลดีต่อความดันโลหิต คือทานผักผลไม้ ธัญพืช และลดทานเนื้อสัตว์ น้ำตาล ของหวาน และอาหารที่มีรสเค็ม
- งดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
- ดูแลสุขภาพจิตของตนเองไม่ให้เครียดมากจนเกินไป
การป้องกันและดูแลตนเองเมื่อเกิดความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตเป็นภาวะที่สามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย โดยที่ค่าความดันปกติ เฉลี่ยโดยทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งค่าความดันเหล่านี้วัดได้โดยการใช้เครื่องวัดความดัน ถ้าหากเกิดอาการผิดปกติหรือมีค่าความดันผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคเพราะการรักษาตั้งแต่มีอาการในระยะแรกมักมีผลลัพธ์การรักษาที่ดี
"หากมีคำถาม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษา กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง"
คลิก เพื่อขอคำปรึกษา