Header

โรคหลอดเลือดสมอง สโตรก สาเหตุอัมพฤกษ์อัมพาตและวิธีป้องกัน

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

โรคหลอดเลือดสมอง สโตรก สาเหตุอัมพฤกษ์ อัมพาต | โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

โรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก): สาเหตุอัมพฤกษ์อัมพาตและการป้องกันที่คุณต้องรู้ เเละเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต และทุพพลภาพ

จากสถิติในประเทศไทยในรายงานปี 2562 พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองกว่า 34,728 คน

(อ้างอิง: กรมควบคุมโรค, 28 ตุลาคม 64)

 

โรคหลอดเลือดสมอง โรคสโตรก คืออะไร ?

ภาวะสมองขาดเลือดอันเกิดจากการที่หลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้ เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย และเป็นเหตุให้ การทำงานของสมองหยุดชะงัก โดยโรคหลอดเลือดสมองสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่:

  1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke):
    ถือเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ (80%) ของการป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากการที่ (1) ลิ่มเลือดจากบริเวณอื่นไหลมาอุดตันที่หลอดเลือดสมอง (2) ลิ่มเลือดก่อตัวในหลอดเลือดสมองจนอุดตัน หรือ (3) หลอดเลือดตีบจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งมีผลให้ประสิทธิภาพการลำเลียงเลือดลดลง

  2. หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke):
    เกิดจากการที่ (1) หลอดเลือดเปราะบางร่วมกับการมีภาวะความดันโลหิตสูง หรืออาจเกิดจาก (2) หลอดเลือดสมองสูญเสียความยืดหยุ่นอันเนื่องจากการสะสมของไขมัน ทำให้หลอดเลือดแตกได้ ซึ่งภาวะนี้อันตรายและส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว

ผู้ป่วยที่ได้รับการฟื้นฟูหลังเกิดอัมพฤกษ์อัมพาต

สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร ?

ปัจจัยของโรคหลอดเลือดสมองอาจแตกต่างกันไปตามรายบุคคล โดยอาจเกิดจาก

  1. ปัจจัยที่เลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่น การเสื่อมของหลอดเลือดจากการมีอายุที่มากขึ้น การแข็งตัวของเลือดที่เร็วกว่าปกติ หรือแม้กระทั่งเพศทางชีวภาพ โดยพบว่า เพศชายมีความเสี่ยงต่อโรคมากกว่าเพศหญิง
  2. ปัจจัยที่สามารถป้องกันได้ อย่างเช่น โรคและภาวะต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดสมอง เช่น โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือภาวะไขมันในเลือดสูง ตลอดจนวิถีการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล อย่างเช่น การสูบบุหรี่ หรือการขาดการออกกำลังกาย

 

สัญญาณเตือนของโรคเลือดสมองเป็นอย่างไร?

เมื่อสมองเกิดภาวะขาดเลือด จะส่งผลให้สมองไม่สามารถสั่งการได้ตามปกติ ซึ่งจะทำให้เราสามารถสังเกตอาการต่าง ๆ ได้ ไม่มากก็น้อย โดยจะขึ้นกับระดับความรุนแรงและตำแหน่งของเนื้อสมองที่ถูกทำลาย โดยอาการเบื้องต้นที่เราสามารถสังเกตได้ ได้แก่ สูญเสียการทรงตัว มองเห็นภาพซ้อน ภาพเบลอ ใบหน้าอ่อนแรง มีอาการชา หรือปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง หรือมีอาการชาครึ่งซีก พูดไม่ชัด พูดลำบาก เป็นต้น โดยอาการเตือนเหล่านี้อาจเกิดขึ้นชั่วขณะแล้วหายไปเอง หรืออาจเกิดขึ้นได้หลายครั้งก่อนจะมีอาการสมองขาดเลือดแบบถาวร ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที

 

ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

  • ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ไขมันส่วนเกินจะสะสมตามผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัว
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพและเกิดการอุดตันได้ง่าย
  • การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ นิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์จากบุหรี่ลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายผนังหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือด
  • ครอบครัวที่เคยมีประวัติโรคหลอดเลือดสมอง ประวัติครอบครัวเป็นปัจจัยทางพันธุกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในบุคคลในครอบครัวเดียวกัน
  • ผู้สูงอายุ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพและแข็งตัวตามธรรมชาติ 

 

สามารถรักษาและฟื้นฟูจากโรคสโตรกได้อย่างไร?

วิธีการรักษาในคนไข้แต่ละรายอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองว่าเกิดจากหลอดเลือดสมองตีบหรือหลอดเลือดสมองแตก โดยหากหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เป้าหมายของการรักษาคือทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ และหากหลอดเลือดสมองแตก เป้าหมายของการรักษาคือการควบคุมปริมาณเลือดที่ออกด้วยการรักษาระดับความดันโลหิต หรืออาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสมองที่อาจเกิดขึ้นกรณีมีเลือดออกมาก

 

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองทำได้อย่างไร?

สามารถทำได้โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้หลอดเลือดเกิดการตีบ อุดตัน หรือแตก เช่น:

  • ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อหาปัจจัยเสี่ยง และวางแผนดูแลสุขภาพแต่เนิ่น ๆ
  • ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม
  • ควบคุมการรับประทานอาหาร เลี่ยงอาหารเค็ม หวาน หรือมันจัด
  • งดหรือลดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม

 

"หากมีคำถาม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษา กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง"

คลิก เพื่อขอคำปรึกษา

 



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ศูนย์สมองและระบบประสาท

สถานที่

อาคาร A ชั้น G

เวลาทำการ

เบอร์ติดต่อ

02 080 5999

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS (Transcranial Magnetic Stimulation)

ปัญหาเกี่ยวกับสมอง อย่างโรคหลอดเลือดสมอง โรคซึมเศร้า ไมเกรน หรือแม้แต่การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ในปัจจุบันมีตัวช่วยใหม่ในการรักษา คือเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)

การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS (Transcranial Magnetic Stimulation)

ปัญหาเกี่ยวกับสมอง อย่างโรคหลอดเลือดสมอง โรคซึมเศร้า ไมเกรน หรือแม้แต่การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ในปัจจุบันมีตัวช่วยใหม่ในการรักษา คือเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)

ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน

ฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้

นพ.สมประสงค์ เกียรติวัฒนชัย นพ.สมประสงค์ เกียรติวัฒนชัย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน

ฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้

นพ.สมประสงค์ เกียรติวัฒนชัย นพ.สมประสงค์ เกียรติวัฒนชัย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การฟื้นฟูการกลืนด้วย Biofeedback - รักษาอาการกลืนลำบาก

การฟื้นฟูการกลืนด้วยเครื่อง Biofeedback ช่วยปรับปรุงการกลืนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง และผู้มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง

blank กภ.วิทยา ดวงงา หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การฟื้นฟูการกลืนด้วย Biofeedback - รักษาอาการกลืนลำบาก

การฟื้นฟูการกลืนด้วยเครื่อง Biofeedback ช่วยปรับปรุงการกลืนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง และผู้มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง

blank กภ.วิทยา ดวงงา หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม