“ตากุ้งยิง” โรคตาที่พบบ่อยที่สุดในช่วง โควิด-19
อาการคัน เจ็บ มีตุ่มนูนเล็ก ๆ คล้ายสิวในบริเวณรอบดวงตาสร้างความเจ็บปวดและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คนนั้นคือโรค “ตากุ้งยิง” ยิ่งในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ต้องใส่หน้ากากอนามัยแทบจะตลอดเวลาเมื่อต้องออกนอกบ้านทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคตากุ้งยิงมากขึ้น
โรคตากุ้งยิงคืออะไร ?
ตากุ้งยิง (Hordeolum) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยมักเกิดบริเวณเปลือกตาด้านบนและเปลือกตาด้านล่าง ทำให้มีอาการเจ็บปวดตรงที่เป็นตุ่มหรือหนอง โดยแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุซึ่งพบได้บ่อย คือ สแตปไฟโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ทำให้เกิดเป็นตุ่มแดงอักเสบขึ้นบริเวณเปลือกตา พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
ประเภทของตากุ้งยิง
โรคตากุ้งยิงมี 2 ชนิด คือ
ตากุ้งยิงแบบไม่ติดเชื้อ (Chalazion)
ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (Non-infectious) แต่เกิดจากการมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขนบริเวณเปลือกตาหรือขนตา สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเปลือกตาบนและล่าง ทำให้ไขมันที่ถูกผลิตขึ้นมาจากต่อมไขมันที่เปลือกตา (Meibomian Gland) ไม่สามารถระบายออกมาได้ บริเวณที่เกิดตากุ้งยิงชนิดไม่ติดเชื้อจะเกิดอาการบวมแดงและมักจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ
ตากุ้งยิงแบบติดเชื้อ (Hordeolum)
เป็นตากุ้งยิงที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus บริเวณต่อมไขมันที่อยู่ในรูขุมขนบนเปลือกตาหรือรูขนตา ทำให้เปลือกตาบวมแดงและรู้สึกเจ็บ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
- ตากุ้งยิงชนิดด้านนอก (External Hordeolum) จะมีตุ่มหนองบริเวณเปลือกตาหรือตรงแนวขนตาสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
- ตากุ้งยิงชนิดด้านใน (Internal Hordeolum) จะมีตุ่มหนองบริเวณด้านในที่สัมผัสกับดวงตา มองเห็นได้ยากกว่า
ตากุ้งยิงเกิดจากอะไร ?
ปัจจัยเสี่ยงหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดตากุ้งยิง ได้แก่
- สัมผัสดวงตาด้วยมือที่ไม่สะอาด
- การใส่คอนแทคเลนส์
- โรคเปลือกตาอักเสบ
- ใช้เครื่องสำอางที่ไม่สะอาดหรือล้างเครื่องสำอางไม่หมด
- เคยมีประวัติเป็นตากุ้งยิงมาก่อน
- ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง เช่น เป็นโรคเบาหวาน
อาการตากุ้งยิง
อาการของผู้ที่เป็นตากุ้งยิงที่เห็นได้ชัดคือ อาการบวมแดงของเปลืองตามีลักษณะคล้ายเป็นสิว บางรายมีไข้ร่วมด้วย แต่นอกจากนี้ผู้ที่เป็นตากุ้งยิ่งยังมีอาการอื่น ๆ ดังนี้
- มีตุ่มนูนขึ้นที่เปลือกตา
- เปลือกตาบวม แดง
- มีอาการเจ็บบริเวณที่บวม
- คันตา
- ตาพร่ามัว
- ตาไวต่อแสง
- ไม่สบายตาเวลากระพริบ
- น้ำตาไหล
ทำไมคนเป็นตากุ้งยิงสูงขึ้นมากในช่วงการระบาดของโควิด ?
จากรายงานพบว่าผู้ป่วยเป็นตากุ้งยิงเพิ่มขึ้นในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 สันนิษฐานเบื้องตันว่า เกิดจากการใส่หน้ากากอนามัยไม่พอดี หน้ากากเลื่อนขึ้นมาสัมผัสขอบตาบ่อยครั้งจึงพาเชื้อบริเวณผิวหนังขึ้นมาติดบริเวณต่อมไขมันเปลือกตามากขึ้น
แนะนำให้ซีลขอบบนหน้ากากให้รัดกุมและใส่หน้ากากอนามัยที่สะอาดจะช่วยลดปัจจัยการเกิดตากุ้งยิงได้
อาการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องไปพบแพทย์
ถึงแม้ตากุ้งยิงที่รู้สึกเจ็บหรือบวมจากการอักเสบจะสามารถหายไปเองได้ แต่ถ้าหากมีอาการติดเชื้อมีหนองเซาะเข้าไปในผิวหนังก็อาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบติดเชื้อรอบ ๆ บริเวณกระบอกตาได้ หรือหากมีอาการตาบวมจนส่งผลต่อชีวิตประจำวันผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
แม้ว่าตากุ้งยิงเป็นโรคไม่ร้ายแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดแต่ก็อาจรบกวนชีวิตประจำวัน ทำให้เสียบุคลิกภาพ และสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถาวรบริเวณขอบเปลือกตา ส่งผลให้ตาแห้ง ขนตาเกขูดผิวกระจกตา ผิวกระจกตาอักเสบหรือเป็นแผลที่กระจกตาและการมองเห็นแย่ลงได้ หากสงสัยว่าเป็นตากุ้งยิง ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือการเจาะระบายหนองที่อยู่บริเวณเปลือกตาออกเพื่อลดอาการอักเสบและจะทำให้หายเร็วขึ้น