Header

รักษามะเร็งปากมดลูก ด้วยวัคซีน HPV

นพ.นพเมศฐ์ ศรีจารุสิทธิ์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.นพเมศฐ์ ศรีจารุสิทธิ์

วัคซีน HPV รักษามะเร็งปากมดลูก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

การได้รับวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกันนั้น เป็นการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดีที่สุด นอกจากวัคซีน HPV จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบริเวณปากมดลูกแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงโรคอื่นๆ ที่เกิดจากเชื้อ HPV เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องปากและคอได้อีกด้วย 

 

วัคซีน HPV คืออะไร

HPV (Human papillomavirus) เป็นกลุ่มของไวรัสที่มีหลายสายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์มักจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ปัจจุบันมีกว่า 200 สายพันธุ์

สายพันธุ์ของ HPV ส่วนใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ HPV ที่เป็นต้นเหตุของการเป็นมะเร็งและ HPV ที่เป็นต้นเหตุของหูดที่อวัยวะเพศ (genital warts)

 

HPV ที่เป็นต้นเหตุของการเป็นมะเร็ง

  • HPV 16: เป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด
  • HPV 18: เป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูกรองลงมา
  • HPV 31, 33, 45, 52, 58: เป็นสายพันธุ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งช่องคลอดในผู้หญิง

 

HPV ที่เป็นต้นเหตุของหูดที่อวัยวะเพศ (Genital Warts)

  • HPV 6 และ HPV 11 เป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ


 

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด

วัคซีน HPV ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีด้วยกัน 3 ชนิด 

  • Cervarix (2 สายพันธุ์)

Cervarix เป็นวัคซีน HPV ที่เน้นป้องกันสายพันธุ์ 6 และ18

  • Gardasil (4 สายพันธุ์)

เป็นวัคซีน HPV ที่เน้นป้องกันสายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกและหูดหงอนไก่

  • Gardasil 9 (9 สายพันธุ์)

Gardasil 9 เป็นวัคซีน HPV ที่ป้องกันได้หลากหลายสายพันธุ์ ดังนี้ 6, 11, 16, 19, 31, 33, 45, 52 และ 58 


 

วัคซีน HPV ฉีดตอนไหน? อายุเท่าไร?

การฉีดวัคซีน HPV ควรให้เริ่มตั้งแต่อายุ 9-12 ปี ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) แนะนำ แต่หากคุณยังไม่เคยรับวัคซีน HPV หรือผ่านการมีเพศสัมพันธุ์มาแล้ว ก็ยังสามารถฉีดวัคซีน Gardasil 9 ได้ในช่วงอายุ 27-45 ปี หากอายุเกิน 45 ปี สามารถฉีดได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ประสิทธิภาพของการป้องกันเชื้อไวรัสนั้นอาจลดลง

คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านแนวทางปฏิบัติด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน (ACIP ) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC ) แนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน HPV ไว้ดังนี้

  • การฉีดวัคซีน HPV ควรให้เริ่มตั้งแต่อายุ 9-12 ปี 
  • ผู้ใหญ่อายุ 27 - 45 ปีแม้ว่าวัคซีน HPV จะได้รับการอนุมัติ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ให้ฉีดจนถึงอายุ 45 ปี แต่ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV สำหรับผู้ใหญ่ทุกคน ผู้ป่วยควรรับคำปรึกษาจากแพทย์ เพราะการฉีดวัคซีน HPV ในช่วงอายุนี้ วัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก แต่พบว่าวัคซีนนี้ไม่มีอันตรายต่อเด็กที่คลอดจากแม่ที่ได้รับวัคซีนในขณะตั้งครรภ์ ส่วนในระยะให้นมบุตรสามารถที่จะฉีดวัคซีนได้ หากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นในระหว่างที่รอฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 หรือ 3 นั้น ควรหยุดฉีดก่อน และกลับมาฉีดเข็มต่อไปหลังจากที่คลอดโดยไม่ต้องเริ่มเข็มแรกใหม่ 

 


วัคซีน HPV ฉีดกี่เข็ม แต่ละเข็มห่างกันกี่เดือน?

การฉีดวัคซีน HPV มักจะแบ่งเป็น 2 หรือ 3 เข็ม โดยครอบคลุมการป้องกัน HPV สายพันธุ์สำคัญดังนี้


แผนการฉีดวัคซีน HPV 2 เข็ม (อายุ 9-14 ปี)

เข็มที่ 1: ฉีดเข็มแรก

เข็มที่ 2: ฉีดในช่วง 6-12 เดือนหลังจากเข็มที่ 1

 

แผนการฉีดวัคซีน HPV 3 เข็ม: (14 ปีขึ้นไป)

เข็มที่ 1: ฉีดเข็มแรก

เข็มที่ 2: ฉีดในช่วง 1-2 เดือนหลังจากเข็มที่ 1

เข็มที่ 3: ฉีดในช่วง 6 เดือนหลังจากเข็มที่ 1


 

ฉีดวัคซีน HPV แล้วช่วยอะไร

วัคซีน HPV มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อที่ปากมดลูก เมื่อได้รับวัคซีนก่อนที่จะเคยมีเพศสัมพันธ์ ยังพบว่าสามารถลดการติดเชื้อมะเร็งอื่นๆ ได้ เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องปาก

ในปัจจุบัน การฉีดวัคซีน HPV สามารถป้องกันไวรัสที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า 10 ปี แม้ว่าจะยังไม่สามารถระบุประสิทธิภาพของวัคซีน HPV ได้อย่างชัดเจน แต่โดยทั่วไปแล้ว การฉีดวัคซีน HPV ถือเป็นมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV และมะเร็งที่เกิดจาก HPV ในระยะยาวมากที่สุด

 

วัคซีน HPV ทำงานอย่างไร

วัคซีน HPV ทำงานโดยเรียนรู้ร่างกายในการต่อสู้กับไวรัส HPV ที่อาจเข้ามาทำให้เกิดโรคมะเร็ง วัคซีนจะช่วยสร้างสิ่งที่เรียกว่า แอนติบอดีในร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจับไวรัส HPV เมื่อเชื้อไวรัสซึมผ่านเข้าสู่ร่างกาย แอนติบอดีจะป้องกันไม่ให้มันทำให้เซลล์ในร่างกายติดเชื้อ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคในอนาคตนั่นเอง

 

ทำไมต้องฉีดวัคซีน HPV

การฉีดวัคซีน HPV เป็นสิ่งสำคัญเพราะมันช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งอื่นๆ ที่เกิดจาก HPV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ป้องกันโรคมะเร็ง HPV เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งชนิดอื่น หากได้รับเชื้อ HPV ในระยะยาว อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดเซลล์มะเร็งในอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้
  • ป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็ง หูดที่อวัยวะเพศ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ
  • ป้องกันแพร่เชื้อ การฉีดวัคซีน HPV ช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อ HPV จากบุคคลที่ติดเชื้อไปยังบุคคลอื่น ทำให้มีโอกาสในการควบคุมการระบาดของโรคมะเร็งและโรคที่เกิดจาก HPV ได้มากขึ้น

 

ติดเชื้อ HPV แล้วควรฉีดวัคซีนป้องกันหรือไม่?

หากบุคคลที่ติดเชื้อ HPV แล้ว การฉีดวัคซีน HPV ยังคงมีประโยชน์ในบางกรณี เนื่องจากวัคซีนสามารถป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์อื่นที่ยังไม่เคยติดมาก่อนได้ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ ที่เกิดจาก HPV ที่ไม่ใช่สายพันธุ์ที่เคยติดเชื้อมาก่อนได้เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีน HPV หลังจากเคยติดเชื้อ HPV อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากวัคซีนมุ่งเน้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันก่อนที่จะติดเชื้อ ดังนั้น การตัดสินใจในการฉีดวัคซีน HPV หลังจากเคยติดเชื้อไปแล้ว ควรพิจารณาจากคำแนะนำของแพทย์ โดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่เป็นไปได้และสถานะสุขภาพของผู้ป่วย 


 

ผู้หญิงที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV แล้วยังต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?

ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกๆ 3 ปี เนื่องจากวัคซีน HPV ไม่ได้ป้องกัน HPV ทุกประเภทที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ การได้รับวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกันนั้น เป็นการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดีที่สุด และสามารถลดความเสี่ยงโรคร้ายอื่นๆ ได้อีกด้วย 

 

ผู้ชายสามารถฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ได้หรือไม่?

ตอบ: สามารถฉีดได้เช่นกัน เนื่องจาก HPV สามารถก่อให้เกิดมะเร็งองคชาติ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งกล่องเสียงได้ และอีกทั้งเพศชายมักจะเป็นผู้นำเชื้อ HPV มาติดให้แก่ผู้หญิง เมื่อมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย

 

 



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

แผนกตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

แผนกตรวจสุขภาพ

สถานที่

อาคาร A ชั้น 2

เวลาทำการ

จันทร์ - อาทิตย์ 07.00 - 16.00 น.

เบอร์ติดต่อ

02 080 5999 ต่อ 4501

แผนกสุขภาพสตรี โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

แผนกสุขภาพสตรี

สถานที่

อาคาร A ชั้น 2

เวลาทำการ

จันทร์ - อาทิตย์ 08.00 -20.00

เบอร์ติดต่อ

02 080 5999 ต่อ 4204

แพทย์ประจำศูนย์

แผนกสุขภาพสตรี

พญ.เนรัญชนา สุ่มศรีสุวรรณ

สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา, การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

แผนกสุขภาพสตรี

พญ.ดวงสมร เกียรติสุดา

สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา, เวชศาสตร์มารดาและทารก

แผนกสุขภาพสตรี

พญ.ธันย์ชนก สมปรารถนา

มะเร็งวิทยานรีเวช

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

วัคซีนพื้นฐานที่เด็กควรได้รับ

วัคซีนพื้นฐาน เป็นวัคซีนที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับ เน้นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยวัคซีน 8 ชนิด

วัคซีนพื้นฐานที่เด็กควรได้รับ

วัคซีนพื้นฐาน เป็นวัคซีนที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับ เน้นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยวัคซีน 8 ชนิด

ฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้แปลว่าไม่ติดเชื้อ

การฉีดวัคซีนช่วยให้เรากลับมาใช้ ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ โดยไม่ต้องกลัวติดเชื้อได้จริงหรือไม่

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้แปลว่าไม่ติดเชื้อ

การฉีดวัคซีนช่วยให้เรากลับมาใช้ ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ โดยไม่ต้องกลัวติดเชื้อได้จริงหรือไม่

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ในแต่ละช่วงอายุ

การฉีดวัคซีนการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคติดต่อร้ายแรง วัคซีนอาจผลิตจากเชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรียที่อ่อนตัวแล้ว ขอเเนะวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ในแต่ละช่วงอายุ

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ในแต่ละช่วงอายุ

การฉีดวัคซีนการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคติดต่อร้ายแรง วัคซีนอาจผลิตจากเชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรียที่อ่อนตัวแล้ว ขอเเนะวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ในแต่ละช่วงอายุ

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม