การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS (Transcranial Magnetic Stimulation)
สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง อย่างโรคหลอดเลือดสมอง โรคซึมเศร้า ไมเกรน หรือแม้แต่การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ซึ่งส่วนใหญ่เคยรักษาด้วยยาหรือการทำกายภาพบำบัดกันมาแล้ว แต่ในปัจจุบันมีตัวช่วยใหม่ในการรักษา คือเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) ที่เข้ามาช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมอง และถ้าใช้ควบคู่กับการกายภาพบำบัดหรือรักษาด้วยยา ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) คืออะไร?
การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) เป็นกระบวนการที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการกระตุ้นบริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับอาการของโรค คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งผ่านหัวปล่อยคลื่นไปกระตุ้นกิจกรรมของสมองในบริเวณนั้น ซึ่งสามารถช่วยบำบัดอาการและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยได้
ทำไมต้องฟื้นฟูด้วยการกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า
การรักษาด้วยการกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) สามารถช่วยเร่งการฟื้นฟูสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า ไมเกรน และอาการปวดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เช่น ช่วง Golden Period ในผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสการฟื้นตัวของผู้ป่วยได้มากขึ้น
ผู้ป่วยกลุ่มใดที่เหมาะกับการกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- การบาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal Cord Injury)
- โรคนอนไม่หลับ
- โรคซึมเศร้า
- โรคไมเกรน
- โรคย้ำคิดย้ำทำ
- กล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity)
- โรคจิตเภท (Schizophrenia)
- กลุ่มอาการพฤติกรรมการรับประทานผิดปกติ (Eating Disorder)
ประโยชน์ของการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS มีประโยชน์ในการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยที่ประสบปัญหาทางสุขภาพต่าง ๆ
- กระตุ้นการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย เช่น การเคลื่อนไหว การพูด และการรับรู้
- ช่วยลดซึมเศร้าและปรับสมดุลสารในสมองได้
- ลดความรุนแรง และความถี่ของอาการปวดศีรษะ
- กระตุ้นการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บไขสันหลังได้
กระบวนการรักษาด้วยการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
กระบวนการรักษาด้วย TMS มีขั้นตอนดังนี้
- ประเมินและวินิจฉัย แพทย์จะทำการประเมินสภาพของผู้ป่วย หาสาเหตุของปัญหาสุขภาพ เพื่อกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสม
- การวางแผนการรักษา แพทย์จะกำหนดตำแหน่งและระดับของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่จะใช้ในการกระตุ้นสมอง
- การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แพทย์จะทำการวางอุปกรณ์บนศีรษะ ทำให้ห้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถูกส่งผ่านกระโหลกศีรษะ เพื่อกระตุ้นสมองโดยตรง
- ติดตามผล แพทย์จะติดตามความคืบหน้าของการรักษา และปรับแผนการรักษาตามความเหมาะสม
*การรักษาด้วย TMS มักใช้เวลา 20-40 นาทีต่อครั้ง และต้องทำการรักษาหลายครั้งเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี
ข้อดีของการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS)
การรักษาด้วยวิธีนี้ อาจมีผลข้างเคียงจากความร้อนบริเวณที่กระตุ้น มีผลมาจากคลื่นแม่เหล็ก ทำให้อุณหภูมิภายในสมองสูงขึ้น แต่ข้อดีก็คือ
- ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) เป็นการรักษาที่ไม่รุกราน (non invasive) จึงไม่มีผลข้างเคียง
- ช่วยส่งเสริมให้การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแบบดั้งเดิม (conventional therapy) มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เป็นทางเลือกการรักษาใหม่ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาในผู้ป่วยและการรักษาฟื้นฟูแบบเดิม ๆ การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยได้
- การฟื้นฟูสมอง ช่วยกระตุ้นบริเวณของสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และการคิด ซึ่งช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองที่บกพร่องไป
- ใช้ระยะเวลาการรักษาไม่นาน และมีโอกาสหายขาดจากโรคได้
สรุป
การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า TMS เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ก้าวหน้า ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยที่ประสบปัญหาทางสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคซึมเศร้า ไมเกรน การบาดเจ็บไขสันหลัง โรคนอนไม่หลับ เป็นต้น ด้วยกระบวนการที่ปลอดภัย ไม่ต้องทานยา และมีผลข้างเคียงน้อย ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการฟื้นฟูเกี่ยวกับการทำงานของสมอง
"หากมีคำถาม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษา กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง"
คลิก เพื่อขอคำปรึกษา