สูบบุหรี่…สารพัดโรคร้ายทำลายปอด
การสูบบุหรี่ สร้างผลกระทบต่อระบบการหายใจหลายระบบด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นอันตรายระดับรุนแรงต่อ “ปอด” เมื่อสูบบุหรี่จะเกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนต้นทั้งหมด ตั้งแต่ จมูก คอหอย หลอดลม คอ ไปจนถึงระบบการหายใจในทรวงอก ทางเดินหายใจส่วนปลาย และลงลึกไปที่ปอด เพราะควันบุหรี่ประกอบด้วยสารพิษและมีสารก่อมะเร็ง สารพิษที่สำคัญได้แก่ นิโคติน อันตรายทั้งต่อผู้สูบเอง และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดที่สูดหายใจเอาอากาศที่มีควันบุหรี่เข้าไปทำให้เสี่ยงเป็นหลายโรคร้ายที่ทำลายปอด
นิโคติน ทำให้หลอดเลือดตีบตัน เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและกระตุ้นระบบประสาท คาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้หัวใจและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย ส่งผลให้เหนื่อยง่าย และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ
ทาร์ เป็นสารก่อมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไนโตรเจนไดออกไซด์ เป็นก๊าซพิษที่ทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม ทำให้ถุงลมโป่งพอง
ไฮโดรเจนไซยาไนต์ ทำให้เกิดอาการไอ มีเสมหะและหลอดเลือดอักเสบเรื้อรัง โดยสารพิษเหล่านี้จะส่งผลทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ อาทิเช่น หลอดเลือดในสมองตีบ โรคมะเร็งต่าง ๆ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยและทั่วโลก
โรคร้ายทำลายปอดที่พบบ่อย
มะเร็งปอด
เกิดจากการที่ปอดได้รับสารเคมีที่เป็นพิษหรือเป็นสารก่อมะเร็งจากการหายใจ โดยร้อยละ 85-90 ของมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่
อาการของมะเร็งปอด
- ไอเรื้อรัง เสมหะมีเลือด เหนื่อยหอบ
- อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดกระดูก ปวดศีรษะ หากมีการแพร่กระจายไปที่อวัยวะที่อื่น
- กลุ่มเสี่ยง หากไอต่อเนื่องเกิน 3 สัปดาห์ หรือไอผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เสมอ
ถุงลมโป่งพอง
ปอดของคนประกอบด้วยถุงลมเล็ก ๆ เป็นจำนวนนับล้าน ถุงลมมีขนาดเล็กมากกว่าปลายเข็ม ผนังถุงลมจะบางมากและมีเส้นเลือดฝอยอยู่ตามผนังถุงลมเวลาหายใจ อากาศที่มีออกซิเจนจะเข้าถึงถุงลมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ที่ออกซิเจนซึมผ่านผนังถุงลมเข้าสู่เส้นเลือดฝอยเพื่อไปเลี้ยงร่างกายคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกขับออกจากเส้นเลือดฝอยเข้าสู่ถุงลม และถูกขับออกจากร่างกายโดยการหายใจออก
ในการสูบบุหรี่ ควันบุหรี่จะถูกดูดเข้าสู่ทางเดินหายใจไปจนถึงถุงลมปอด ซึ่งนิโคตินและสารเคมีอื่น ๆ ในควันบุหรี่จะถูกดูดซึมสู่เส้นเลือดฝอยที่บุตามถุงลม จากนั้นนิโคตินจะถูกพาไปตามกระแสเลือด ไปสู่สมอง ซึ่งเป็นสารเสพติดที่ทำให้ผู้สูบติดบุหรี่
อาการของถุงลมโป่งพอง
- แน่นหน้าอก
- เหนื่อย หอบ เพราะมีการเสื่อมลงของปอดอย่างรวดเร็ว
วัณโรค
เนื้อปอดที่ถูกทำลายจากสารพิษในควันบุหรี่ทำให้การขจัดเชื้อวัณโรคที่หายใจเข้าสู่ปอดมีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้ผู้สูบบุหรี่ติดเชื้อวัณโรคง่ายขึ้น ผู้สูบบุหรี่ที่ได้รับเชื้อวัณโรคร่างกายจะควบคุมเชื้อไม่อยู่ ทำให้เกิดเป็นวัณโรคปอด
ในผู้ที่สูบบุหรี่และเป็นวัณโรค โรคจะรุนแรงลุกลามเร็วและรักษายากขึ้น ผู้ที่สูบบุหรี่แล้วเป็นวัณโรคมีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า
อาการของโรควัณโรค
- ไอเกิน 2 สัปดาห์
- ไอเสมหะมีเลือด
- น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ
- เบื่ออาหาร
- มีไข้ต่ำ ๆ เหงื่อออกกลางคืน
โรคภูมิแพ้
ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหลอดลม เกิดการหลั่งสารน้ำเหลืองออกมาในจำนวนที่มากกว่าปกติ ควันบุหรี่ทำให้ขนเล็ก ๆ ที่ผิวหลอดลมไม่ทำงาน โดยปกติขนเล็ก ๆ ทำหน้าที่โบกพัดฝุ่นและเสมหะออกจากหลอดลม เมื่อควันบุหรี่ทำให้ขนเล็ก ๆ ไม่ทำงาน ฝุ่นและเสมหะจะตกค้างในหลอดลม ส่วนคนที่เป็นหืด หากสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่ อาหารจะรุนแรงและควบคุมยากขึ้น ปอดจะเสื่อมเร็วขึ้น ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาน้อย และต้องใช้ยามากขึ้น
อาการหืดจับเกิดขึ้นได้อย่างไร
ในคนที่เป็นหืด เมื่อลมหายใจมีสิ่งที่แพ้หรือระคายเคืองต่อหลอดลม ผิวหลอดลมจะเกิดอาการอักเสบ กล้ามเนื้อรอบหลอดลมหดตัวทำให้รูหลอดลมเล็กลง ส่งผลให้ลมหายใจเข้าออกลำบากเกิดเป็นอาการหืดจับขึ้น
บุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งต่อผู้สูบเอง และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดที่สูดหายใจเอาอากาศที่มีควันบุหรี่เข้าไป เพราะควันบุหรี่ประกอบด้วยสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งสิ้น ดังนั้นวิธีแก้รักษาปอดที่ดีที่สุดคือ เลิกสูบบุหรี่และพยายามหลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่มือสองและสาม ทุกคนสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เพียง “เลิกสูบบุหรี่”
ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สสส. และ จดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ