Header

หลอดเลือดหัวใจตีบ ภัยเงียบใกล้ตัวคุณ

นพ.ลิขิต กำธรวิจิตรกุล โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ นพ.ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

หลอดเลือดหัวใจตีบ ภัยเงียบใกล้ตัวคุณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก หนึ่งในนั้นคงมี “โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด” ติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนี้จัดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 ของประชากรไทยเลยทีเดียว

 

หลอดเลือดหัวใจตีบ ภัยเงียบใกล้ตัวคุณ !

     หากพูดถึงสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก หนึ่งในนั้นคงมี “โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด” ติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2562 พบว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนี้จัดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 ของประชากรไทยเลยทีเดียว โดยแท้จริงแล้วนั้นสาเหตุเกือบทั้งหมดของโรคนี้นั้นเกิดมาจากการที่ผู้ป่วยมีหลอดเลือดหัวใจตีบนั่นเอง

 

เราได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายแพทย์ลิขิต กำธรวิจิตรกุล แพทย์อายุรศาสตร์หัวใจ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เกี่ยวกับ “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ” ความน่ากลัวของโรคนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ในบทความนี้มีคำตอบ

 

หลอดเลือดหัวใจตีบคืออะไร ?

    โดยทั่วไปแล้วหลอดเลือดแดงหลักที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจของเรานั้นมีทั้งหมด 3 เส้น เรียกว่า “หลอดเลือดแดงโคโรนารี (Coronary Artery)” การที่หลอดเลือดแดงโคโรนารีนี้จะเกิดการตีบหรือตัน จะมีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่เกิดจากความเสื่อมของผนังหลอดเลือดโคโรนารี ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด และเกิดการอักเสบในเวลาต่อมา ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของหลอดเลือดเล็กลง สามารถลำเลียงเลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลง

ในระยะแรกผู้ป่วยมักจะยังไม่มีอาการผิดปกติ เนื่องจากตามธรรมชาติแล้ว ร่างกายจะพยายามปรับตัว โดยขยายขนาดหลอดเลือดเพื่อชดเชยการตีบที่เกิดขึ้น แต่ในระยะยาว หลอดเลือดหัวใจจะไม่สามารถขยายตัวมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว ทำให้เมื่อผู้ป่วยออกแรง หรือทำงานหนัก จึงเริ่มเกิดอาการผิดปกติ

 

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเกิดจากตระกรันไขมันเกิดการปริแตก

     โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่เกิดจากความเสื่อมของผนังหลอดเลือดโคโรนารี จึงเกิดการเกาะตัวของเกร็ดเลือดในหลอดเลือดอย่างรวดเร็ว จนอุดตันในหลอดเลือดที่จะนำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตกระทันหันได้ โดยในผู้ป่วยกลุ่มนี้นั้นไม่จำเป็นต้องมีอาการนำมาก่อนเลยก็เป็นได้
  


  

อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

  • ภาวะเจ็บเค้นอกคงที่ (Stable Angina) มักมีอาการเมื่อออกแรง หรือออกกำลัง แต่อาการมักจะหายไปเมื่อมีการหยุดพัก ลักษณะอาการเจ็บเค้นที่หน้าอก แน่นเหมือนมีสิ่งของมาทับ บางรายอาจมีอาการร้าวไปที่แขน ขากรรไกร หรือลงมาที่ตำแหน่งท้องเหนือสะดือได้บางรายอาจมีอาการเหนื่อยมากขึ้นเมื่อทำกิจวัตร เช่น เดินได้ระยะทางลดลง เดินขึ้นบันไดได้ลดลง เป็นต้น
  • ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary Syndrome) มักมีอาการที่รุนแรง เจ็บแน่นมากกว่า อาการส่วนใหญ่เกิดขึ้นนานมากกว่า 20 นาที อาการไม่หายไปเมื่อนั่งหรือหยุดพัก ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการใจสั่น หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้ หน้ามืด หมดสติ และอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

 

กลุ่มเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

  • ความเสี่ยงที่ไม่สามารถแก้ไขได้ คือ กรรมพันธุ์โรคหัวใจขาดเลือดในญาติสายตรง ได้แก่ บิดา มารดา พี่ น้องเพศ โดยเพศชายมีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิงอายุที่มากขึ้น
  • ความเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้ ที่พบได้ทั่วไป คือ
    • การสูบบุหรี่
    • โรคเบาหวาน
    • โรคความดันโลหิตสูง
    • โรคไขมันในเลือดสูง
    • ภาวะเครียดหรือภาวะซึมเศร้า
    • การออกกำลังกายน้อย
    • น้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติ หรือโรคอ้วน

 

การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

  • ผู้ที่มีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในคนกลุ่มนี้ควรพบแพทย์ เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบโดยละเอียด ซึ่งการตรวจสามารถทำได้หลายวิธี โดยที่นิยมและแม่นยำ ได้แก่ การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งบนสายพาน (Exercise Stress Test : EST) ร่วมกับการทำอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram) การทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือดหัวใจ (Coronary CT Angiogram)
  • ในกลุ่มผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เริ่มต้นโดยให้ประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยตนเองก่อน หากมีความเสี่ยงดังข้างต้น สามารถตรวจหาได้เช่นเดียวกับผู้ที่มีอาการด้วยการตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งบนสายพาน (Exercise Stress Test : EST)  และวิธีเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือดหัวใจ (Coronary CT Angiogram)

     โรคหลอดเลือดหัวใจถือเป็นภัยเงียบที่อันตราย ดังนั้นอย่าชะล่าใจ หากสงสัยว่าตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการ หรือมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา ตรวจและรักษาได้อย่างทันท่วงที

 

เพราะหัวใจที่แข็งแรงคือจุดเริ่มต้นของการห่างไกลโรคหัวใจ

     โรคหัวใจ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยเนื่องจากคนมีพฤติกรรมเสี่ยงกันมากขึ้น ทั้งการรับประทานอาหาร การไม่ดูแลสุขภาพร่างกาย แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ เพราะอาการบางอย่างอาจจะคล้ายคลึงกับหลายโรค ควรมาตรวจสุขภาพหัวใจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เริ่มดูแลหัวใจตั้งแต่วันนี้เพื่อคุณ…และคนที่คุณรัก


ควรระวังและดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ รวมถึงการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ ลดความเครียด และควบคุมปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำหนัก และความดันโลหิต และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาทางการแพทย์เพื่อรักษาสุขภาพหัวใจให้ดีที่สุด

หากคุณหรือบุคคลในครอบครัวของคุณมีอาการเสี่ยงหรือเป็นโรคหัวใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมเพื่อรับการรักษา และการประเมินสุขภาพของหัวใจอย่างถูกวิธี หากท่านไหนที่เริ่มสังเกตอาการตัวเองว่า เข้าข่ายอาการของโรคหัวใจ ก็ควรเริ่มปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง โรคหัวใจดูแลได้…หัวใจคุณให้พรินซ์ช่วยดูแล


บทความโดย :  โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (บางนา กม 6.5)
#หัวใจคุณให้พริ้นซ์ช่วยดูเเล

 

"หากมีคำถาม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษา กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง"

คลิก เพื่อขอคำปรึกษา



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ พร้อมบริการรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง 24 ชั่วโมง

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด

สถานที่

อาคาร A ชั้น 2

เวลาทำการ

จันทร์ - อาทิตย์ 08.00 -15.00

เบอร์ติดต่อ

02 080 5999 ต่อ 4601 หรือ 092 131 6465

แพทย์ประจำศูนย์

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด

นพ.สุขุม เตชะสกุลเจริญ

อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด

พญ.ศิริพร อธิสกุล

อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด

นพ. ชูศักดิ์ หล่อจิตต์เสียง

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน

ลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน ด้วยการตรวจหาหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ ใครบ้างที่มีความเสี่ยง?

ลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน

ลดความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลัน ด้วยการตรวจหาหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ ใครบ้างที่มีความเสี่ยง?

การตรวจหัวใจด้วย คลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง ECHOCARDIOGRAM

ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram) เป็นการตรวจหลอดเลือดใหญ่และหัวใจ ทำงานโดยการอาศัยหลักของการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเช่นเดียวกับอัลตราซาวด์

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การตรวจหัวใจด้วย คลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง ECHOCARDIOGRAM

ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram) เป็นการตรวจหลอดเลือดใหญ่และหัวใจ ทำงานโดยการอาศัยหลักของการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเช่นเดียวกับอัลตราซาวด์

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เบาหวานน่ากลัวอย่างไร

โดยปกติแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดของคนเราจะถูกควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยฮอร์โมนอินซูลินที่ตับอ่อนสร้างขึ้นมา โดยฮอร์โมนนี้จะทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงาน หากขาดฮอร์โมนอินซูลินไปหรืออินซูลินไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ตามปกติ เซลล์ในร่างกายก็จะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และเกิดเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เบาหวานน่ากลัวอย่างไร

โดยปกติแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดของคนเราจะถูกควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติด้วยฮอร์โมนอินซูลินที่ตับอ่อนสร้างขึ้นมา โดยฮอร์โมนนี้จะทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงาน หากขาดฮอร์โมนอินซูลินไปหรืออินซูลินไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ตามปกติ เซลล์ในร่างกายก็จะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และเกิดเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม