โรคข้อเข่าเสื่อม ภัยจากโรคกระดูกที่ไม่ควรมองข้าม
โรคข้อเข่าเสื่อม (knee osteoarthritis)
ข้อเข่าเสื่อม หมายถึง ภาวะที่กระดูกอ่อนผิวข้อ (articular cartilage) เกิดการเสื่อมสภาพและสึกหรอ โดยในระยะแรกนั้นกระดูกอ่อนผิวข้อจะมีการสูญเสียคุณสมบัติทางชีวโมเลกุล มีความหนาของชั้นผิวข้อที่ลดลง เมื่อเป็นมากขึ้นกระดูกอ่อนผิวข้อจะเสื่อมสภาพไปทั้งหมด ทำให้กระดูกบริเวณข้อต่อเกิดการเสียดสีโดยตรง เป็นสาเหตุของอาการเจ็บขัดในการใช้ชีวิตประจำวัน ในระยะสุดท้ายจะเกิดปัญหาข้อเข่าผิดรูป, ข้อเข่าหลวมไม่มั่นคง, ขยับข้อเข่าได้ลดลง ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และคุณภาพชีวิตอย่างมาก
โรคข้อเข่าเสื่อม สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ข้อเข่าเสื่อมชนิดปฐมภูมิ (primary osteoarthritis of knee)
หมายถึง ภาวะข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด รวมถึงภาวะข้อเข่าเสื่อมที่เกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ทั้งนี้โอกาสเป็นโรค และความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันไปขึ้นกับปัจจัยเสี่ยง ได้แก่
- เพศหญิง พบว่าเพศหญิงมีโอกาสป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าเพศชาย 1.7 เท่า
- มีน้ำหนักเกินคำมาตรฐาน ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (body mass index) มากกว่า 23 จะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม 2.0-2.7 เท่าของผู้ที่มีดัชนีมวลกายอย่างน้อย 23
- มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการยกของหนัก การย่อตัวคุกเข่ากับพื้นบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน เช่น เกษตรกร, ช่างก่อสร้าง เป็นต้น
- ขาดการออกกำลังกาย หรือมีวิถีชีวิตแบบเนือยนิ่ง (sedentary lifestyle)
- ปัจจัยด้านพันธุกรรม
2. ข้อเข่าเสื่อมชนิดทุติยะภูมิ (secondary osteoarthritis of knee)
หมายถึง ภาวะข้อเข่าเสื่อมที่มีสาเหตุแน่ชัด อาทิเช่น
- มีประวัติเป็นโรคข้อเข่าติดเชื้อรุนแรงมาก่อน
- เคยประสบอุบัติเหตุ กระดูกหักร่วมกับกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลาย หรือกระดูกขาหักติดผิดรูป
- มีประวัติได้รับการบาดเจ็บ เส้นเอ็นข้อเข่าฉีกขาด เช่น เอ็นไขว้หน้า หรือไขว้หลังขาด เป็นต้น
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคข้ออักเสบรูมาติซั่ม, โรคเกาต์ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เป็นตัน
อาการ และอาการแสดงของโรคข้อเข่าเสื่อมสามารถแบ่งได้ ดังนี้
อาการในระยะแรก
- อาการขัดในข้อเข่า โดยจะมีอาการในช่วงแรกของการเดิน อาการมักจะเกิดขึ้นภายหลังจากตื่นนอน หรือนั่งเป็นระยะเวลานาน อาการขัดมีลักษณะคล้ายเข่าติด ไม่สามารถก้าวเดินได้ทันที อาจต้องยืนสักพักแล้วค่อย ๆ ก้าวเดิน เมื่อเดินต่อไปสักระยะอาการจะทุเลาลง
- มีเสียงดังกรอบแกรบคล้ายของแข็งเสียดสีกันในข้อเข่า โดยสามารถสังเกตได้โดยการวางมือที่ด้านหน้าหัวเข่า แล้วขยับเข่างอ-เหยียดไปมา จะรู้สึกได้ถึงลักษณะฝืดเคืองในหัวเข่า
- เจ็บหัวเข่าทุกครั้งที่ขึ้น-ลงบันได หรือนั่งแล้วลุกจากพื้นราบ
อาการเมื่อเป็นข้อเข่าเสื่อมระยะหลัง
- มีอาการปวดขัดมากขึ้น โดยมักจะมีอาการตลอดระยะเวลาที่เดิน
- มีอาการข้อเข่าบวมอักเสบบ่อย ๆ โดยมักจะเป็นภายหลังจากการเดินเป็นระยะเวลานาน
- ข้อเข่าผิดรูป อาทิเช่นข้อเข่าโก่ง คด หรือเก
- งอ-เหยียดหัวเข่าได้ไม่สุด
- หัวเข่าหลวม เวลาเดินลงน้ำหนักมีการสะบัดของข้อเข่า ทำให้ทรงตัวลำบากหรือเดินตัวเอียง
การรักษาโรคช้อเข่าเสื่อม
เนื่องจากโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกาย ในปัจจุบันยังไม่มีวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทำให้หัวเข่าหายเสื่อม หรือกลับไปเป็นข้อเข่าปกติได้ ดังนั้นการรักษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการที่เกิดจากการเสื่อม และชะลอการเสื่อมมิให้เกิดการดำเนินโรคมากขึ้นเท่านั้น โรคข้อเข่าเสื่อมทุกระยะมีโอกาสดีขึ้นด้วยวิธีการักษาแบบอนุรักษนิยม ดังนั้นผู้เป็นที่โรคข้อเข่าเสื่อมทุกคนควรเริ่มต้นการรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์นิยมก่อนเสมอ ซึ่งได้แก่
- การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิเช่น หลีกเลี่ยงการนั่งกับพื้น, การคุกเข่า, หรือนั่งเก้าอี้ที่มีความสูงต่ำกว่าระดับหัวเข่าเป็นต้น
- การควบคุมน้ำหนักตัว โดยมีเป้าหมายให้ดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (20-23 kg/m2 )
- การออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อรอบหัวเข่าอย่างสม่ำเสมอ เลือกการออกกำลังกายที่ไม่เกิดแรงกระแทกบริเวณหัวเข่า เช่น การเดิน, เดินเร็ว, ขี่จักรยาน และว่ายน้ำ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการยก หรือแบกของหนักโดยไม่จำเป็น
- การใช้ยารับประทานตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาบรรเทาอาการปวด อักเสบ เป็นต้น
- ในกรณีที่อาการเป็นมาก อาจพิจารณาการฉีดยาเข้าข้อเข่าได้ตามวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษา
ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีอนุรักษ์นิยมแล้วอาการไม่ดีขึ้นตามสมควรนั้น แพทย์ผู้รักษาอาจแนะนำวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งการรักษาด้วยการผ่าตัดนั้นมีหลายวิธี อาทิ เช่น การผ่าตัดแก้ไขแนวกระดูกขา (high tibia osteotomy, การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแบบด้านเดียว (unicompartment knee replacement) และการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมทั้งข้อ (total knee replacement) เป็นต้น ซึ่งมีข้อบ่งชี้แตกต่างกัน ขึ้นกับอาการ, ระยะของโรค และวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษา
โรคข้อเข่าเสื่อมนั้นเป็นภาวะที่พบได้มากขึ้นในสังคมสูงอายุ อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาวะที่ดี รวมถึงการออกกำลังกายอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรค ชะลอ และบรรเทาอาการของโรคได้เป็นอย่างดี
บทความโดย : นพ.กุลพัชร จุลสำลี แผนกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
หากคุณต้องการนัดหมายแพทย์ เพื่อทำการปรึกษา
สามารถติดต่อสอบถามเราได้
Call Center 02-080-5999 หรือ LINE : @psuv
หรือ คลิกที่นี่เพื่อ Add Line ของเรา
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม
สถานที่
อาคาร A ชั้น G
เวลาทำการ
จันทร์ - อาทิตย์ 08.00 - 20.00
เบอร์ติดต่อ
02 080 5999 ต่อ 4110