Header

โรคเด็กที่พบบ่อยในฤดูฝน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์ โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์

โรคที่พบบ่อยในฤดูฝน โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ในฤดูฝนแต่ละปี จะสังเกตได้ว่าเด็ก ๆ จะไม่สบายได้ง่าย เพราะอากาศจะเริ่มเย็นลง และชื้นมากขึ้น แถมยังมีเชื้อไวรัสอีกมากมายที่สามารถทำให้เด็ก ๆ ไม่สบายได้ โรคเด็กที่พบบ่อยในฤดูนี้คือโรคติดเชื้อเฉียบพลันของทางเดินหายใจ,โรคที่ยุงเป็นพาหะ เช่น โรคไข้เลือดออกและไข้สมองอักเสบ ถ้ามีน้ำท่วมขังก็จะเห็นโรคเท้าเปื่อยด้วยค่ะ และหมอจะแบ่งโรคที่พบเป็นดังนี้
 

1. โรคติดเชื้อเฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจจะแบ่งได้เป็น

  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โรคไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, คออักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ, ไซนัสอักเสบ
  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น โรคปวดบวม, หลอดลมอักเสบ, โรคทางเดินหายใจอุดตันกะทันหันจากกล่องเสียงอักเสบ (CROUP) และโรคหอบหืด
  • โรคไข้หวัดและโรคแทรกซ้อนจากหวัด เป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ เพราะยังไม่มีภูมิต้านทานที่ดีพอ ฤดูฝนเป็นฤดูที่มีเชื้อไวรัสหลายชนิดที่ทำให้เกิดเป็นหวัดได้และสามารถติดต่อกันได้ง่ายจากอากาศที่หายใจ อาการส่วนใหญ่จะมีน้ำมูกไหล,คันตา,จาม,ไอ, และอาจจะมีเจ็บคอ, ไข้, ปวดศีรษะ และเบื่ออาหารร่วมด้วย ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นใน 5 - 7 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อน เช่น หูชั้นกลางอักเสบ (เจ็บหู) หรือไซนัสอักเสบ (ปวดศีรษะ) หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากน้ำมูกที่เปลี่ยนจากสีใส ๆ เป็นเขียว ๆ เหลือง ๆ ไอมากขึ้น, ไข้สูงนานกว่า 3 วัน หรือหายใจลำบาก ก็ควรจะพามาพบกุมารแพทย์เพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้อง บางรายได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่มาก็จะมีอาการที่รุนแรงและอยู่นานกว่าไข้หวัดธรรมดา ในรายที่เป็นไม่มากก็สามารถดูแลอยู่ที่บ้านได้โดย
    • ให้เด็กพักผ่อน
    • ดื่มน้ำอุ่นมากๆ
    • รับประทานยาลดไข้ (ถ้ามีไข้)
    • ดูแลให้สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นถ้าอากาศเย็น
    • ไม่ควรอาบน้ำหรือสระผมขณะที่เป็นไข้หวัดโดยเฉพาะในเด็กเล็ก
    • ในเด็กเล็กๆ ที่มีน้ำมูกอาจจะช่วยโดยใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำเกลือเช็ดจมูก หรือถ้ามีน้ำมูกมากควรหยอดน้ำเกลือในโพรงจมูกแล้วใช้ลูกยางแดงดูดน้ำมูกออกซึ่งควรทำก่อนดูดนมและก่อนนอน ก็จะช่วยให้เด็กดูดนมและนอนหลับได้ดีขึ้น
  • โรคปอดบวม จะเป็นได้จากการติดเชื้อไวรัสและ / หรือเเบคทีเรีย อาการส่วนใหญ่จะมีเหมือนไข้หวัดมาก่อนแต่จะเริ่มหายใจเร็วขึ้น มีไข้สูง และถ้าเป็นมากขึ้น เด็กจะเริ่มหอบ หายใจลำบากขึ้น จนมีจมูกบานหรือชายโครงบุ๋ม ริมฝีปากเขียวและถ้าเริ่มเห็นอาการดังกล่าวก็ควรรีบพามาพบแพทย์
  • โรคหลอดลมอักเสบและหอบหืด ส่วนใหญ่จะเริ่มมีน้ำมูกใส ๆ ไข้ต่ำ ๆ ไอซึ่งอาจจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหายใจเข้าได้ไม่เพียงพอ หรือถ้ามีอาการหอบ ก็อาจจะได้ยินเสียงวี๊ด (WHEEZING) หายใจเร็วขึ้น, ชายโครงบุ๋มและจมูกบานได้ ส่วนมากถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน อาการหอบครั้งแรกมักจะเป็นจากการติดเชื้อไวรัสหรือจากปวดบวม ส่วนเด็กที่มีอาการเรื้อรังเป็นๆหายๆอยู่เรื่อยๆ จนโตก็จะเรียกว่าเป็นโรคหอบหืด ซึ่งจะต้องระวังเพราะอาการหวัดธรรมดาก็สามารถทำให้เด็กพวกนี้หอบขึ้นมาได้
  • โรคทางเดินหายใจอุดตันกะทันหัน จากการบวมอักเสบของกล่องเสียงที่ลามไปถึงหลอดลมใหญ่ (VIRAL CROUP) ในฤดูฝนจะมีเชื้อไวรัสบางชนิดที่จะทำให้เกิดอาการนี้ได้ ส่วนใหญ่จะเห็นอยู่ในเด็กอายุ 3 เดือน ถึง 3 ขวบ และจะมาด้วยอาการไข้ ไอเสียงก้อง (BARKING COUGH) เริ่มหายใจเสียงดัง และใช้กล้ามเนื้อส่วนคอในการหายใจเข้า (STRIDOR) ซึ่งจะเห็นได้เมื่อหลอดลมเริ่มอุดตันจากอาการบวมมากขึ้น ถ้าคิดว่าลูกอาจจะเป็นโรคนี้ควรรีบพามาพบแพทย์ทันที

 

2.โรคไข้เลือดออกเด็งกี่ (DENGUE)

  • เกิดจากเชื้อไวรัสเด็งกี่ซึ่งจะมาจากยุงลายตัวเมีย ที่ดูดเลือดคนเป็นอาหารในเวลากลางวัน ยุงลายชนิดนี้จะวางไข่ในที่ ๆ มีน้ำขังนิ่ง ๆ ดังนั้นในหน้าฝนจึงมียุงลายชนิดนี้มากอาการจะแบ่งได้เป็น
  • ไข้เด็งกี่ (DENGUE FEVER) ซึ่งจะมีไข้สูงลอย (39 – 40 องศา) 2 – 7 วัน, ปวดศีรษะ, ปวดท้องแถวลิ้นปี่, ปวดคอและกล้ามเนื้อและอาจมีคอแดง, อาเจียน และจุดเลือดออกใต้ผิวหนังได้ ส่วนใหญ่มักจะไม่มีน้ำมูกหรือไอร่วมด้วย โรคนี้สามารถหายเองได้ใน 4 – 5 วันถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน
  • ไข้เลือดออกเด็งกี่ (DENGUE HEMORRHAGIC FEVER) จะมีอาการเหมือนไข้เด็งกี่แต่จะมีเลือดออกมากกว่า โดยเฉพาะในวันที่ 3 - 7 ของโรค เด็กจะเริ่มซึมลง อาเจียนมากขึ้น ปวดท้องและตับโตขึ้นได้ และถ้าเป็นมาก ๆ ความดันอาจจะต่ำและช็อคได้ ดังนั้นถ้าสงสัยว่าเด็กจะเป็นไข้เลือดออกควรพามาตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพื่อช่วยในการดูแลและรักษาที่ถูกต้อง
  • เด็กบางคนอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสตัวอื่นที่มีอาการคล้ายไข้เด็งกี่ได้ แต่อาการจะน้อยและสั้นกว่า วิธีป้องกันคือป้องกันไม่ให้โดนยุงกัดโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน การใช้ยาฆ่ายุง และกำจัดแหล่งเพาะยุงตามที่ ๆ มีน้ำขังก็จะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคไข้เลือดออกนี้ได้

 

3. โรคไข้สมองอักเสบจากไวรัส เจอี

จะเจอบ่อยในภาคเหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยยุงจะเป็นพาหะ และจะมีอาการไข้สูง, อ่อนเพลีย, คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ และใน 3 – 4 วันจะเริ่มมีอาการทางประสาท เช่น ชักเกร็ง,ซึม และอาจจะเสียชีวิตได้ภายใน 10 วัน ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจจะมีโรคแทรกซ้อน เช่น ปวดบวมและกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนและระวังไม่ให้โดนยุงกัด


4.โรคเท้าเปื่อยหรือเชื้อราที่เท้า

จะพบในแหล่งที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ดังนั้นถ้าสามารถหลีกเลี่ยงการลุยน้ำด้วยเท้าเปล่าหรือแช่เท้าในน้ำนาน ๆ ได้ ก็จะช่วยป้องกันโรคเท้าเปื่อยได้ ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำสกปรกมาก็ควรจะล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งทุกครั้ง ดังจะเห็นแล้วว่าในฤดูฝนมีโรคที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้ง่าย ผู้ปกครองจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

หากมีอาการตามโรคทั้ง 4 โรคที่ได้กล่าวมาแล้วควรรีบนำลูกหลานของท่านเข้าปรึกษาแพทย์ค่ะ
 

โรคเด็กที่พบบ่อยในฤดูฝน |ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ | โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

สถานที่

อาคาร A ชั้น 2

เวลาทำการ

จันทร์ - อาทิตย์ 08.00 -20.00

เบอร์ติดต่อ

02 080 5999 ต่อ 4401

แพทย์ประจำศูนย์

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

พญ.สุชาดา ดาวสุริยการ

กุมารเวชศาสตร์

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

พญ.อภิญญา พราหมณี

กุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ

แผนกเด็ก 24 ชั่วโมง

พญ.ภิญญภา มุกด์จินดาภา

กุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำไงดี ลูกชอบดูดนิ้ว ชอบอมมือ ถ้าโตไปฟันจะเสีย หรือเปล่า

ทำไมลูกถึงชอบดูดนิ้ว ต้องบอกเลยว่าการดูดนิ้วสำหรับในวัยเด็กถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเด็กติดดูดนิ้วไปจนอายุเกินกว่า 4 ปี อาจส่งผลให้ฟันยื่น เหยิน และการสบฟันที่ผิดปกติได้

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ทำไงดี ลูกชอบดูดนิ้ว ชอบอมมือ ถ้าโตไปฟันจะเสีย หรือเปล่า

ทำไมลูกถึงชอบดูดนิ้ว ต้องบอกเลยว่าการดูดนิ้วสำหรับในวัยเด็กถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเด็กติดดูดนิ้วไปจนอายุเกินกว่า 4 ปี อาจส่งผลให้ฟันยื่น เหยิน และการสบฟันที่ผิดปกติได้

blank โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
วัคซีนพื้นฐานที่เด็กควรได้รับ

วัคซีนพื้นฐาน เป็นวัคซีนที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับ เน้นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยวัคซีน 8 ชนิด

วัคซีนพื้นฐานที่เด็กควรได้รับ

วัคซีนพื้นฐาน เป็นวัคซีนที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับ เน้นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยวัคซีน 8 ชนิด

โรคในเด็กที่พบบ่อยตามฤดู โรคมือ เท้า ปาก

โรคมือ เท้า ปาก มักจะพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ นะคะ จำนวน ไม่แน่ใจ  แต่ว่าโรคจะระบาดในช่วงฤดูฝน อาการของโรค คือ มีไข้ มีแผลในปาก มีตุ่มแดงตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า

พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์ โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โรคในเด็กที่พบบ่อยตามฤดู โรคมือ เท้า ปาก

โรคมือ เท้า ปาก มักจะพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ นะคะ จำนวน ไม่แน่ใจ  แต่ว่าโรคจะระบาดในช่วงฤดูฝน อาการของโรค คือ มีไข้ มีแผลในปาก มีตุ่มแดงตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า

พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์ โรงพยาบาลพริ้นซ์สุวรรณภูมิ พญ.สุรีย์พร กอบเกื้อชัยพงษ์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม