การคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยจะมีอุบัติการณ์มากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้นตั้งแต่50ปีขึ้นไป นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงเช่น การตรวจพบติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่(colonic polyp), การมีญาติใกล้ชิดเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, โรคลำไส้อักเสบ(inflammatory bowel disease), การทานผักน้อยและทานเนื้อสัตว์จำนวนมาก เป็นต้น
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจมีอาการอย่างไรได้บ้าง
- ถ่ายอุจจาระปนมูกเลือด
- มีลักษณะการขับถ่ายอุจจาระที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นการถ่ายอุจจาระท้องผูกสลับกับการถ่ายอุจจาระเหลว
- ลักษณะอุจจาระลีบลง ในบางรายอาจมีอาการลำไส้อุดตันร่วมด้วย ได้แก่ท้องอืดมาก อาเจียนมาก ไม่สามารถอุจจาระหรือผายลมได้
- มีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็กโดยไม่มีเหตุอื่นอธิบายได้
- อาการอื่นๆที่อาจพบร่วมได้ เช่น น้ำหนักตัวลดเยอะ, อาการปวดท้อง
ทำไมเราถึงควรคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
การคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ได้ โดยถ้าอาจตรวจพบและกำจัดติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือการตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเริ่มต้น อาจสามารถรักษาหายขาดหรือมีผลการรักษาที่ดีกว่าการตรวจพบในระยะท้ายของโรค
แนวทางในการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ในปัจจุบันโดยทั่วไปแนะนำให้เริ่มการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตั้งแต่อายุ 50 -75 ปี (ในผู้มีความเสี่ยงสูง อาจพิจารณาเริ่มทำการคัดกรองตั้งแต่อายุน้อยกว่า50ปี) หรือในผู้ที่มีอาการแสดงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
โดยวิธีที่ใช้ในการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีหลายวิธี ได้แก่
- การตรวจหาเลือดแดงในอุจจาระ (fecal occult blood test) เป็นการตรวจหาเม็ดเลือดแดงที่ออกมาในอุจจาระในปริมาณน้อยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยแนะนำให้ทำการตรวจทุก 1ปี
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) โดยแนะนำให้ทำการตรวจทุก10ปี
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย(sigmoidoscopy)โดยแนะนำให้ทำการตรวจทุก5ปี
- การตรวจเอ็กเรย์คอมพิวเตอร์ลำไส้ใหญ่ (CT colonoscopy) โดยแนะนำให้ทำการตรวจทุก5ปี
จะเห็นได้ว่าโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคใกล้ตัวทุก ๆคน โดยเฉพาะเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ซึ่งการตรวจคัดกรอง ด้วยวิธีต่างๆก็จะช่วยป้องกันการเกิดโรค หรือทำให้ตรวจพบโรคในระยะต้นได้มากขึ้นครับ